แม้ว่าเรามักจะได้ยินว่าสุนัขป่วยเพราะกินช็อกโกแลตอยู่บ่อยๆ ก็ตาม แต่จริงๆ แล้วช็อกโกแลตก็ยังสามารถเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพของเจ้าเหมียวได้เช่นเดียวกัน และถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ถ้ากินเข้าไปในปริมาณที่เยอะเกินไป

ทำไมช็อกโกแลตจึงเป็นอันตรายต่อเจ้าเหมียว

แม้ว่าน้ำตาล ไขมัน และไซลิทอล (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล) ก็ไม่ดีต่อแมวเช่นกัน แต่ช็อกโกแลตมีส่วนประกอบสองอย่างที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของสัตว์ นั่นคือคาเฟอีนและธีโอโบรมีน (Theobromine) ซึ่งเป็นสารแอลคาลอยด์ (Alkaloid) จากพืชที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในโกโก้ งานวิจัยหนึ่งที่ตีพิมพ์โดยวารสารวิชาการ Frontiers in Pharmacology ระบุว่าธีโอโบรมีนเป็นสารพิษที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นอันตรายต่อสัตว์ส่วนใหญ่ซึ่งรวมถึงแมวด้วย

โกโก้มีชื่อภาษาลาตินว่า Theobroma cacao หมายความว่า “อาหารสำหรับพระผู้เป็นเจ้า” และเมล็ดที่คั่วแล้วก็กลายเป็นของกินเล่นแสนอร่อยได้ด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ช็อกโกแลตน่ารื่นรมย์สำหรับมนุษย์กลับเป็นสิ่งอันตรายที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยง

ทำไมส่วนประกอบเหล่านี้จึงเป็นอันตรายต่อสัตว์เป็นอย่างมาก

Chocolate bar with broken off pieces.

สาเหตุหลัก 2 ประการก็คือ ช็อกโกแลตและธีโอโบรมีนเป็นสารกระตุ้น Banfield Pet Hospital อธิบายว่า คาเฟอีนที่พบในอาหารและเครื่องดื่มจำนวนมากนอกเหนือจากช็อกโกแลต จะเป็นพิษเมื่อถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายของแมว ทำให้เกิดการ “อาเจียน ท้องร่วง กระหายน้ำเพิ่มขึ้น ทุรนทุราย และอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น” ธีโอโบรมีนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการคล้ายคลึงกันเมื่อแมวกินเข้าไป

ช็อกโกแลตปริมาณเท่าใดถึงเรียกว่ามากเกินไป

ช็อกโกแลตไม่ว่าปริมาณเท่าใดก็ถือว่ามากเกินไปสำหรับแมวของคุณ ช็อกโกแลตทุกรูปแบบเป็นอันตรายต่อเจ้าเหมียวขนปุยของคุณ เช่น ผงโกโก้แห้งและช็อกโกแลตอบ (พิษโดยส่วนใหญ่มาจากธีโอโบรมีนปริมาณสูง) ดาร์กช็อกโกแลต ช็อกโกแลตกึ่งหวาน (Semi-sweet) และช็อกโกแลตนม หรือแม้แต่ไวท์ช็อกโกแลตที่มีปริมาณโกโก้ต่ำก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ระดับพิษขึ้นอยู่กับปริมาณที่เจ้าเหมียวกินเข้าไปและประเภทของช็อกโกแลต เว็บไซต์ Petful ระบุว่า สำหรับแมวน้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม แค่ช็อกโกแลตอบหนึ่งชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ก็เป็นอันตรายแก่ลูกแมวได้อย่างมากเทียบเท่ากับช็อกโกแลต 23 หยดห่อรวมกัน คุณควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แมวของคุณกินช็อกโกแลตแม้ในปริมาณนิดเดียว เพราะว่าไม่ว่าปริมาณใดก็จะทำให้แมวของคุณป่วย

ช่วยด้วย แมวของฉันกินช็อกโกแลตเข้าไปแล้ว! ฉันควรเฝ้าดูอาการใดบ้าง

ควรเฝ้าดูผลข้างเคียงสองสามประการที่ได้ระบุไปแล้วข้างต้น แต่คุณจะต้องจับตาดูเจ้าเหมียวอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่าเขามีอาการใดๆ เหล่านี้หรือไม่

  • อาเจียน
  • ท้องร่วง
  • คลื่นไส้
  • อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
  • กระหายน้ำเป็นพิเศษ
  • ปัสสาวะบ่อยเกินไป
  • อาการอยู่ไม่สุข
  • ทุรนทุราย
  • อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น
  • หายใจเร็วหรือหายใจหอบ
  • กล้ามเนื้อสั่นหรือกระตุก
  • ความดันเลือดต่ำ
  • อาการชัก
  • หมดสติ

สำหรับปัญหาฉุกเฉินทางสุขภาพทุกกรณี คุณต้องพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันทีหรือไปที่ห้องฉุกเฉินสำหรับสัตว์ เพื่อตรวจดูว่าพิษได้ลุกลามไปมากเพียงใดแล้วและรับการรักษา หลังการรักษา ให้จับตาดูแมวของคุณอย่างต่อเนื่องว่ามีอาการป่วยอื่นใดอีกหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพิษออกจากระบบร่างกายของเจ้าเหมียวหมดแล้ว

ควรทำอะไรเป็นลำดับถัดไป

พยายามสงบใจให้ได้มากที่สุด เพราะแมวสามารถเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของเจ้าของได้เป็นอย่างดี พยายามให้แมวอยู่ในที่ที่เย็น สงบ และเงียบ เพื่อไม่ให้อาการพิษจากช็อกโกแลตกำเริบขึ้น

สัตวแพทย์อาจขอให้คุณทำให้แมวอาเจียนเพื่อไม่ให้เกิดย่อยสารพิษนั้น เมื่อคุณพาแมวมาถึงคลินิกแล้ว สัตวแพทย์จะตรวจวินิจฉัยแมวของคุณ ซึ่งรวมถึงการให้น้ำเกลือเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายแมวด้วย จากนั้นจะมีการตรวจสุขภาพ ชั่งน้ำหนัก ตรวจประเภทและปริมาณช็อกโกแลตที่เจ้าเหมียวกินเข้าไป เพื่อดูว่าต้องมีการทดสอบหรือรักษาเพิ่มเติมหรือไม่

ฉันจะป้องกันไม่ให้แมวกินช็อกโกแลตได้อย่างไร

คุณสามารถป้องกันไม่ให้แมวกินช็อกโกแลตได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงแค่เก็บช็อกโกแลตไว้ในที่ที่เจ้าเหมียวจอมซนเข้าไม่ถึง แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ช่างสงสัย คาดเดาไม่ได้ และชอบขุดคุ้ยไปรอบๆ ห้องครัว ดังนั้นเก็บช็อกโกแลตทั้งหมดไว้ในตู้ที่ปิดแน่นหนา นึกถึงทุกสิ่งที่อาจประกอบด้วยช็อกโกแลต อย่างบราวนี่ โดนัท คุกกี้ ลูกกวาด เป็นต้น เพราะว่าไม่ได้มีเพียงแค่ช็อกโกแลตแท่งเท่านั้นที่ทำให้แมวป่วยได้ ต้องระวังสิ่งนี้ให้มากเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดอย่างวันฮาโลวีน ถ้าคุณกำลังสนุกสนานอยู่ ให้วางจานลูกกวาดไว้ในที่ที่แมวของคุณเข้าถึงได้ยาก และเก็บจานลูกกวาดทันทีหลังจบงานปาร์ตี้ ถ้ามีแขกถามว่า “แมวกินช็อกโกแลตได้ไหม” ตอนนี้คุณก็เตรียมตอบชัดๆ ไปได้เลยว่า “ไม่ได้”

เจ้าของสัตว์เลี้ยงชอบให้รางวัลเจ้าเหมียว และคุณก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัยโดยให้ขนมสำหรับแมวที่ปลอดภัยและออกแบบมาเพื่อให้แมวของคุณมีความสุขและสุขภาพดี และคุณก็ควรเก็บช็อกโกแลตทั้งหมดไว้กินเองได้เลย!

Christine O'Brien Christine O'Brien

Christine O'Brien เป็นนักเขียน คุณแม่ และเจ้าของแมวที่เลี้ยงแมวมาอย่างยาวนาน โดยแมวรัสเซียนบลูสองตัวของเธอครองบ้านอยู่ตลอด ผลงานของเธอยังปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ Care.com, What to Expect และ Fit Pregnancy ซึ่งเธอเขียนเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง การตั้งครรภ์ และชีวิตครอบครัว ติดตามเธอได้ทาง Instagram และ Twitter @brovelliobrien

บทความที่เกี่ยวข้อง

initial thumbnail
อาหารสำหรับแมวเลี้ยงในบ้าน ฮิลส์ ไซเอนซ์ ไดเอท

ค้นหาอาหารที่เหมาะสมสำหรับแมวเลี้ยงในบ้านจากฮิลส์ ไซเอนซ์ ไดเอท ที่คิดค้นสูตรมาสำหรับแมวเลี้ยงในบ้านของคุณโดยเฉพาะ แมวเลี้ยงในบ้านมีความต้องการด้านอาหารการกินเป็นพิเศษ ซึ่งอาหารแมวจากฮิลส์ ไซเอนซ์ ไดเอท ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าเหมียวได้อย่างลงตัว

initial thumbnail
The Proper Nutritional Balance Your Cat Needs

Good nutrition is about the right balance of nutrients. Learn more about health issues when feeding a cat food that has an improper nutritional balance from your friends at Hills Pet Nutrition.

initial thumbnail
Precise nutrition for every lifestage

Hills Pet Nutrition provides information on proper nutrition, fitness and special needs in keeping your cat healthy and happy.

initial thumbnail
How to Transition Your Cat to Hill's™ Science Diet™ Senior 11+ Age Defying™ Cat Food

Making the informed decision to move your cat to Hill’s Age Defying 11+ cat food is an important one transitioning your cat to a new food needs to be done the right way. Follow these simple steps for the transition.